เมนูนำทาง
ชิงร้อยชิงล้าน ซูเปอร์เกม เกมในชิงร้อยชิงล้าน Super Gameในชิงร้อยชิงล้าน Super Game ได้ปรับปรุงเกมจากยุคต่างๆทั้งหมดและได้เพิ่มเกมอีก 2 เกม
ในเกมนี้เป็นการทายดารารับเชิญของรายการซึ่งให้ผู้เข้าแข่งขันให้ทายซึ่งในเกมนี้จะมีโอกาสตอบในกระดานทั้ง 3 รอบโดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบดังนี้
ในรูปแบบที่ 1 ใช้ชื่อว่า ยังจำได้ไหม (ตั้งแต่ 3 มกราคม 2539 ถึง กรกฎาคม 2539) จะเป็นการทายภาพของดารารับเชิญในอดีตเป็นแบบ 3 ภาพ 3 ช่วงเวลาว่าดารารับเชิญคนนี้เป็นใคร โดยพิธีกรให้ผู้เข้าแข่งขันเขียนคำตอบลงในกระดานคำตอบ ซึ่งให้ผู้เข้าแข่งขันเขียนคำตอบได้ 3 คำตอบเท่านั้น หลังจากนั้นพิธีกรจะเฉลยคำตอบโดยการเชิญดารารับเชิญออกมาโชว์ร้องเพลงว่าคนนี้เป็นใคร ถ้าผู้เข้าแข่งขันทีมใดเขียนคำตอบถูกจะได้คะแนนคำตอบละ 5 คะแนน รอบนี้คะแนนสูงสุด 15 คะแนน แล้วดารารับเชิญคนแรกที่มารายการ คือ ดวงตา ตุงคะมณี เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2539
ในรูปแบบที่ 2 ใช้ชื่อว่า ทายดาราปริศนา (ตั้งแต่ สิงหาคม 2539 ถึง 25 กุมภาพันธ์ 2541) จะแบ่งเป็น 3 รอบดังนี้
ทั้งนี้ทีมผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 มีโอกาสเขียนในกระดานคำตอบได้ 3 ครั้งเท่านั้นหลังจะเฉลยว่าดารารับเชิญคนนี้คือใครโดยการเชิญดารารับเชิญออกมาโชว์ร้องเพลงว่าคนนี้เป็นใครโดยถ้าตอบถูกจะได้คะแนนคำตอบละ 5 คะแนน รอบนี้คะแนนสูงสุด 15 คะแนน หลังจากที่มีการเฉลยคำตอบแล้ว ก็จะมีการพูดคุยกับดารารับเชิญเกี่ยวกับความเป็นมาและเรื่องราวต่างหลังจากนั้น ยังมีหม่ำ จ๊กมก, เอ๊ดดี้ ผีน่ารัก และ เท่ง เถิดเทิง มาสร้างสีสันเสียงหัวเราะให้ท่านผู้ชมได้รับความสนุกสนานกันอีกด้วย
เกมจริงหรือไม่ ซึ่งเกมนี้ เป็นการนำเอาประสบการณ์ชีวิตในแง่มุมต่างๆของดาราที่เป็นผู้เข้าแข่งขันในเกม ไม่ว่าจะเป็น ความชอบ งานอดิเรก ของสะสมส่วนตัว หรือแม้กระทั่งประสบการณ์ลี้ลับ และเฉียดความตาย โดยเรื่องราวเหล่านี้ จะถูกนำมาใช้เป็นเกมการแข่งขันในรูปแบบตอบคำถาม โดยในการแข่งขัน ทีมที่จะเป็นผู้ตอบคำถาม คือทีมฝ่ายตรงข้ามอีกสองทีมที่ไม่ใช่เจ้าของเรื่อง ซึ่งทีมที่ตอบจะต้องทายว่าคำถามในข้อนั้นเป็นเรื่องจริง หรือไม่จริง หลังจากที่ตอบแล้ว ทีมเจ้าของเรื่องนั้นจะเป็นผู้เฉลยว่าคำถามนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทีมเจ้าของเรื่องนั้นจะเป็นผู้เฉลยว่าคำถามนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าทีมฝ่ายตรงข้ามตอบถูกก็จะได้ 5 คะแนน (ภายหลังเพิ่มเป็น 10 คะแนน) แต่ถ้าตอบผิดจะไม่ได้คะแนน
ทั้งนี้ คำถามในเกมจริงหรือไม่ ของชิงร้อยชิงล้าน Super Game จะถูกลดเหลือ 3 ข้อ จากเดิม 6 ข้อ ซึ่งแต่ละทีมจะมีโอกาสตอบคำถามทั้งหมด 2 ข้อด้วยกัน และให้ทายว่าเรื่องคนนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยในแต่ละข้อ หลังจากที่มีการเฉลยคำตอบแล้ว ก็จะมีการพูดคุยกับดาราเจ้าของเรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่ตั้งเป็นคำถามนั้นๆ บางครั้งอาจมีการสาธิตโชว์เรื่องนั้นให้ดูในรายการ หากเป็นเรื่องความสามารถ หรือมีการนำของสะสมต่างๆ มากมายที่เป็นของดารามาแสดงในรายการ ในกรณีที่คำถามเกี่ยวข้องกับของสะสมของดารา ทั้งนี้ การพูดคุยกับดารา ยังมีหม่ำ จ๊กมก, เอ๊ดดี้ ผีน่ารัก และ เท่ง เถิดเทิง มาสร้างสีสันเสียงหัวเราะให้ท่านผู้ชมได้รับความสนุกสนานกันอีกด้วย โดยการล้อเลียนดารารับเชิญที่เป็นเจ้าของเรื่องในช่วงนั้นๆ
ในปี 2539 ได้นำเกมชิงดำในชิงร้อยชิงล้านยุคแรกมาเล่นในยุคนี้ โดยมีคำถามทั้งหมด 6 ชุด ทีมที่มีคะแนนน้อยที่สุดจะได้เลือกชุดคำถามก่อน หลังจากนั้นพิธีกรจะมีข้อมูลหรือคำถามให้ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคู่ว่าในข้อมูลหรือคำถามนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลหรือคำถามนั้น แล้วให้ผลัดกันตอบในเวลาเพียง 10 วินาที ถ้าใครคนใดคนหนึ่งเกิดคิดไม่ออกนึกไม่ออกว่าจะตอบอะไรให้พูดคำว่า "ชิงร้อยชิงล้าน" ซึ่งหมายถึงให้ผ่านหรือข้ามนั่นเอง ถ้าตอบสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่นับเป็นคะแนน โดยจะเล่นทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกคำตอบละ 1 คะแนน ส่วนรอบที่สองคำตอบละ 2 คะแนน เกมนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ 3 มกราคม 2539 ถึง กรกฎาคม 2539 ก่อนที่จะยกเลิกไปแล้วแทนที่ด้วยเกมจริงหรือไม่ในข้อที่ 3 แทน (จากเดิมที่เล่นเกมจริงหรือไม่ทั้ง 3 ข้อในเบรกเดียวกัน)[1]
สำหรับรอบสะสมเงินรางวัลนั้นจะมี 2 รอบด้วยกันโดยเงินรางวัลสะสมนั้นเป็นเงินรางวัลสำหรับผู้ที่เข้ารอบ Jackpot โดยเงินรางวัลนั้นไปรวมยอดกับเงินรางวัลรอบสุดท้ายไปด้วย และยุคนี้เป็นยุคแรกที่มีการสะสมเงินรางวัลเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ในเกมถังแตกจะมีแผ่นป้ายของผู้สนับสนุนรายการทั้ง 12 แผ่นป้าย ในแต่ละแผ่นป้ายจะมีป้าย 10,000 อยู่ 8 แผ่นป้ายหมายถึงได้เงินรางวัลแผ่นป้ายละ 10,000 บาท (ผู้สนับสนุนหลักในการชิงโชค คือ ตู้เซฟลีโก้) และแผ่นป้ายถังแตกอีก 4 แผ่นป้าย (แผ่นป้ายรูปถังไม้แตก) ถ้าเปิดเจอถังแตกครบทั้ง 4 แผ่นป้าย จะได้รับเงินรางวัลสะสม 100,000 บาททันที ในกรณีที่เปิดป้ายได้ 10,000 บาททั้ง 8 แผ่นป้าย จะได้รับเงินรางวัลสะสม 80,000 บาท ถ้าเปิดป้าย 10,000 บาทแล้วป้ายต่อไปเป็นถังแตก แปลว่าหยุดเกมลงทันที และเงินรางวัลที่เปิดป้ายนั้นรวบรวมตามจำนวนที่เปิดป้ายได้ แต่กรณีที่เปิดป้ายถังแตกก่อนป้ายต่อไปเปิดป้ายเป็นเงิน 10,000 บาท ถือว่าหยุดลงเช่นกันและรับเงินรางวัล 10,000 บาทไปด้วย โดยแจ็คพอตรอบถังแตกในครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2539
ต่อมาเมื่อย้ายมาออกอากาศทางช่อง3 ก็ได้เปลี่ยนผู้สนับสนุนหลักเป็นผลิตภัณฑ์ทเวลฟ์พลัส โดยแบ่งเป็นแผ่นป้ายโคโลญจน์(ฟ้า/ชมพู),แป้งหอมเย็น(ชมพู/ม่วง),โรลออน(ชมพู,ม่วง),บิวตี้ออยล์และซอฟท์เทนนิ่งโลชั่น ทั้งหมด 8 แผ่นป้าย แต่กติกายังคงเดิมทุกประการ
สำหรับเกมถังแตกถูกใช้ในปี 2539 จนถึงยุคทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ตั๊ก ซึ่งเกมนี้อยู่คู่กับชิงร้อยชิงล้านมาถึง 13 ปี 3 ยุคโดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบกติกาของเกมเลย ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอีกครั้งในยุค ชิงร้อยชิงล้าน Cha Cha Cha ในช่วงปลายปี 2549 และถูกยกเลิกในปี 2552
เกมนี้ในปี 2539 - 2540 จะเป็นการเปิดป้ายจับคู่โทรทัศน์สีโกลด์สตาร์ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นโกลด์เดนอาย ซึ่งเป็นของแอลจีเช่นเดียวกันกับโกลด์สตาร์) ซึ่งเกมนี้เป็นการจับคู่โทรทัศน์สีแบบปิดและเปิดโดยแผ่นป้ายของผู้สนับสนุนรายการจะมีทั้งหมด 12 แผ่นป้าย แบ่งเป็นโทรทัศน์สีแบบปิดซึ่งจะเป็นหน้าจอสีฟ้าล้วน ๆ (ต่อมาเป็นหน้าจอมืดๆ สีดำ) 6 แผ่นป้าย และโทรทัศน์สีแบบเปิดซึ่งในหน้าจอจะเป็นรูปภาพคุณปัญญาและคุณตั๊ก มยุรา ซึ่งถือแผ่นป้าย 0 อยู่ (ป้ายดังกล่าวเป็นภาพในรอบ Jackpot ของ ชิงร้อยชิงล้าน ครั้งหนึ่งในชีวิต ต่อมาเป็นรูปตาของผู้หญิง 2 ข้าง) อีก 6 แผ่นป้าย ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเลือกแผ่นป้ายผู้สนับสนุนรายการทั้งหมด 8 แผ่นป้ายจาก 12 แผ่นป้าย ซึ่งแผ่นป้ายที่เลือกนั้น จะให้วางเป็นคู่ ๆ แต่ละป้ายคู่จะต้องจับคู่โทรทัศน์สีให้เหมือนกัน (เปิด-เปิด หรือ ปิด-ปิด) ถ้าจับคู่โทรทัศน์สีถูก จะได้เงินรางวัลคู่ละ 20,000 บาท ถ้าสามารถทำให้ 3 ใน 4 คู่เป็นทีวีปิดหรือเปิด จะได้รับเงินรางวัลสะสม 1,000,000 บาท แต่ถ้าเปิดได้ทีวีเปิดและทีวีปิดอย่างละ 2 คู่ก็จะได้แค่ 80,000 บาทแต่แจ็คพอตจะไม่แตก เกมนี้มีแจ็คพอตแตก 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2539 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2540 แต่ทุกครั้งที่ล้านแตก จะเป็นปิด 3 คู่ และเปิด 1 คู่
ต่อมาในปี 2541 ได้เปลี่ยนผู้สนับสนุนหลักเป็นกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ โดยตัวแผ่นป้ายจะเป็นกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 2 รสชาติ (โรบัสต้ากับมิลค์กี้คอฟฟี่) รสชาติละ 6 แผ่นป้าย แต่กติกายังคงเดิมจากทีวีปิดทีวีเปิดทุกประการ และทั้งนี้เกมนี้ก็ได้ใช้ต่อในยุคชะชะช่า กติกายังคงเดิมแต่เปลื่ยนป้ายเป็นโรบัสต้ากับซุปเปอร์เบลนด์
ในเกมนี้เป็นการตัดสินให้ผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่รอบ Jackpot โดยจะมีแผ่นป้ายของผู้สนับสนุนรายการ 12 แผ่นป้ายซึ่งมีคะแนน 1-9 ส่วนอีก 3 ป้าย คือรูปใบหน้าของคุณปัญญา,คุณมยุรา และคุณหม่ำ โดยแผ่นป้ายปัญญาหรือป้ายมยุรามีค่า 10 คะแนน (แต่ในกรณีที่เปิดแผ่นป้ายเดียว ป้ายมยุราจะสามารถชนะป้ายปัญญา) และป้ายหม่ำเป็นป้ายตกรอบ (ป้ายหม่ำนั้น ในกรณีที่ทีมผู้เข้าแข่งขันสามารถเลือกเปิดได้ 2 หรือ 3 แผ่นป้าย ถึงจะสามารถเปิดเจอป้ายใดๆก็ตาม แม้กระทั่งมยุรา แต่ถ้าป้ายใดป้ายหนึ่งเปิดเจอหม่ำ จะถือว่าตกรอบทันทีเช่นเดียวกัน) ในเกมเปิดแผ่นป้ายคะแนนนี้ จะมีการดูคะแนนจากรอบเกมจริงหรือไม่ และทายดาราปริศนาด้วย ทีมที่มีคะแนนสะสมจากเกมทั้ง 2 เกม จะมีสิทธิ์เปิดแผ่นป้ายตามกรณีต่างๆ ดังนี้
1. คะแนนทั้ง 3 ทีมไม่เท่ากัน ทีมที่มีคะแนนสูงสุดจะได้เปิด 3 แผ่นป้าย รองลงมา 2 แผ่นป้าย และทีมที่มีคะแนนน้อยที่สุด ได้เปิดเพียง 1 แผ่นป้าย
2. ทีมที่มีคะแนนสูงสุด และอีก 2 ทีมมีคะแนนเท่ากัน ทีมที่มีคะแนนสูงสุดจะได้เลือก 3 แผ่นป้าย อีก 2 ทีม จะได้เลือกทีมละ 2 แผ่นป้าย
3. 2 ทีม มีคะแนนสูงสุดสูงกว่าอีกทีม ทีมที่มีคะแนนสูงสุด 2 ทีม จะได้เลือกทีมละ 2 แผ่นป้าย ส่วนทีมที่เหลือ จะได้เปิดเพียง 1 แผ่นป้าย
4. ทั้ง 3 ทีมมีคะแนนเสมอกัน ทั้ง 3 ทีมจะได้เลือกเปิดทีมละ 2 แผ่นป้าย
ซึ่งถ้าเปิดเจอป้ายปัญญาและมยุรา จะได้เงินรางวัลพิเศษจากผู้สนับสนุน 100,000 บาท
เกมเปิดป้ายคะแนนของชิงร้อยชิงล้าน Super Game ในปี 2539 - 2540 ได้ปรับเปลี่ยนเป็นทีมผู้ที่มีคะแนนสูงที่สุดได้เปิดป้าย 3 แผ่นป้าย (แต่เดิมมี 2 ป้าย) ส่วนทีมผู้ที่ได้คะแนนน้อยกว่าทีมที่ได้คะแนนสูงสุดจะเปิด 2 แผ่นป้าย (เดิมเพียงป้ายเดียว) และป้ายหม่ำซึ่งเป็นป้ายตกรอบนั้นได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นป้าย 0 คะแนนแทน (แต่เมื่อเปิดป้ายอื่นๆ ก็สามารถเข้ารอบได้เช่นกัน) อย่างไรก็ดีตั้งแต่กลางปี 2540 - 2541 ได้ใช้กฎกติกาเกมเปิดป้ายคะแนนแบบเดียวกับยุค Top Secret, ครั้งหนึ่งในชีวิต อยู่เหมือนเดิม คือป้ายหม่ำหมายถึงตกรอบทันที
สำหรับในรอบนี้ ผู้ที่เปิดป้ายได้คะแนนรวมมากที่สุดจะเข้ารอบทันที แต่ถ้าทั้ง 2 หรือ 3 ทีมมีคะแนนเท่ากัน ทีมที่มีสิทธิ์เปิดแผ่นป้ายมากกว่าจะเข้ารอบ นอกจากนี้ ถ้าผู้เข้าแข่งขันที่มีสิทธิ์เปิดได้ 2 หรือ 3 แผ่นป้าย เปิดได้จำนวนเลขรวมกันเท่ากับ 10 ก็จะได้รับแพ็คเกจทัวร์เดินทางไปยัง น้ำตกหวางกว่อฉู้ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน จากบริษัทนำเที่ยว วีคเอนด์ ทัวร์ อีกด้วย ส่วนผู้ที่เปิดได้ป้ายปัญญาและมยุราก็จะได้รับเงินรางวัลพิเศษจากผู้สนับสนุนรายการ 100,000 บาทอีกด้วย ซึ่งในรอบนี้ มีผู้ที่ได้รางวัลพิเศษ 100,000 บาทเพียงคู่เดียว คือ คู่ของ ชูศรี เชิญยิ้ม และ จเร เชิญยิ้ม เป็นการเปิดได้ ปัญญา-มยุรา ติดกัน 2 ใบ
รอบสุดท้าย (Jackpot) ของรายการชิงร้อยชิงล้าน Super Game นั้น ในช่วงแรกจะมีแผ่นป้ายของผู้สนับสนุนรายการทั้ง 12 แผ่นป้ายด้วยกัน โดยมีแผ่นป้ายเลข 0 จะมี 6 แผ่นป้าย ซึ่งมีเงินรางวัลแผ่นป้ายละ 10,000 บาท ส่วนแผ่นป้ายผู้สนับสนุนหลัก (ผู้สนับสนุนหลักในการชิงโชคคือแป้งเย็นตรางู เซ็นลุกซ์ นิวชอยซ์ ต่อมาเปลี่ยนเป็นวีโอวิสกี้) ซึ่งจะมีตัวเลข 20,000 ซึ่งเป็นมีเงินรางวัล 20,000 บาท 3 แผ่นป้าย แต่อีก 3 แผ่นป้ายเป็นแผ่นป้ายเปล่าไม่มีเงินรางวัลแต่อย่างใด แต่ถ้าหากเปิดสามารถป้าย 0 ได้ครบ 6 แผ่นป้าย จะได้รับเงินรางวัล 2,000,000 บาท (ผู้สนับสนุนเงินรางวัลคือ ง่วนเชียง) โดยจะให้คนละ 1,000,000 บาท ให้กับผู้เข้าแข่งขันและผู้โชคดีจากทางบ้านที่มาจากการจับชิ้นส่วนของผู้สนับสนุนรายการที่ผู้ชมทางบ้านส่งมาร่วมสนุกนั่นเอง แต่ถ้าเปิดได้สปอนเซอร์หลักในการชิงโชคได้ครบ 6 แผ่นป้าย จะได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท โดยที่แขกรับเชิญจะได้รับแค่ฝ่ายเดียว ส่วนฝ่ายผู้โชคดีจากการมอบโชคก็จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาทตามปกติ ในรอบนี้มีผู้ทำ Jackpot แตกทีมแรกและทีมเดียวคือพล ตัณฑเสถียร และอัษฎาวุธ เหลืองสุนทร ได้รับเงินรางวัลรวม 1,010,000 บาท เป็นการเปิดได้ป้ายผู้สนับสนุนหลักทั้ง 6 แผ่นป้าย
เมนูนำทาง
ชิงร้อยชิงล้าน ซูเปอร์เกม เกมในชิงร้อยชิงล้าน Super Gameใกล้เคียง
ชิงร้อยชิงล้านแหล่งที่มา
WikiPedia: ชิงร้อยชิงล้าน ซูเปอร์เกม //scholar.google.com/scholar?q=%22%E0%B8%8A%E0%B8%... //www.google.com/search?&q=%22%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E... //www.google.com/search?as_eq=wikipedia&q=%22%E0%B... //www.google.com/search?q=%22%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0... //www.google.com/search?tbs=bks:1&q=%22%E0%B8%8A%E... http://www.youtube.com/watch?v=v5RXlkMSZ24 https://www.jstor.org/action/doBasicSearch?Query=%...